การแพ็คกิ้งชิ้นส่วนลงลังไม้เป็นกระบวนการที่สำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าชิ้นส่วนจะได้รับการป้องกันอย่างดีระหว่างการขนส่ง การแพ็คกิ้งที่เหมาะสมจะช่วยลดความเสียหายและรับประกันว่าชิ้นส่วนจะถึงมือผู้รับในสภาพที่ดีที่สุด
ขั้นตอนการแพ็คกิ้งชิ้นส่วนลงลังไม้

1. การเตรียมการเบื้องต้น
ตรวจสอบชิ้นส่วน: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าชิ้นส่วนทั้งหมดสะอาด ปราศจากคราบน้ำมัน สนิม หรือสิ่งสกปรกอื่น ๆ หากจำเป็นให้ทำความสะอาดและทำให้แห้งสนิท
ตรวจสอบลังไม้: ตรวจสอบลังไม้ว่าอยู่ในสภาพดี แข็งแรง ไม่ผุพังหรือมีรอยแตกร้าว หากเป็นลังที่ใช้ซ้ำ ควรตรวจสอบความสะอาดและซ่อมแซมจุดที่ชำรุด
เลือกขนาดลังไม้ที่เหมาะสม: ลังไม้ควรมีขนาดที่เหมาะสมกับชิ้นส่วน ไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป หากลังใหญ่เกินไปอาจต้องใช้วัสดุกันกระแทกจำนวนมาก และชิ้นส่วนอาจเคลื่อนที่ภายในลังได้ง่าย

2. การห่อหุ้มและป้องกันชิ้นส่วน
ห่อหุ้มชิ้นส่วนแต่ละชิ้น:
ชิ้นส่วนที่อ่อนไหวต่อความชื้น: ใช้พลาสติกกันความชื้น (VCI film) หรือฟิล์มหด (stretch film) ห่อหุ้มให้มิดชิดเพื่อป้องกันสนิมและความชื้น
ชิ้นส่วนที่มีพื้นผิวบอบบาง: ใช้กระดาษห่อ (wrapping paper) หรือโฟมกันกระแทก (foam wrap) ห่อหุ้มเพื่อป้องกันรอยขีดข่วน
ชิ้นส่วนที่มีคมหรือแหลมคม: ห่อหุ้มด้วยวัสดุที่หนาและแข็งแรง เช่น กระดาษลูกฟูกหนา หรือใช้พลาสติกห่อหุ้มเพื่อป้องกันการบาดเจ็บและไม่ให้ทำลายบรรจุภัณฑ์อื่น ๆ
การรองรับและกันกระแทก:
ใช้วัสดุกันกระแทก: เช่น โฟม (foam), เม็ดโฟม (packing peanuts), ฟิล์มกันกระแทก (bubble wrap), กระดาษลูกฟูก (corrugated cardboard) หรือถุงลม (air bags) เพื่อเติมเต็มช่องว่างและป้องกันการเคลื่อนที่ของชิ้นส่วนภายในลัง
วางชิ้นส่วนที่หนักไว้ด้านล่าง: จัดเรียงชิ้นส่วนที่หนักที่สุดไว้ด้านล่างของลังเพื่อให้ลังมีความมั่นคง และป้องกันไม่ให้ชิ้นส่วนที่เบากว่าถูกกดทับ
กระจายน้ำหนักให้สม่ำเสมอ: พยายามกระจายน้ำหนักของชิ้นส่วนให้ทั่วถึงภายในลัง เพื่อป้องกันการเอียงหรือเสียสมดุล

3. การจัดเรียงและการยึดตรึง
ใช้บล็อกไม้หรือแผ่นกั้น: หากมีชิ้นส่วนหลายชิ้น ควรใช้บล็อกไม้หรือแผ่นกั้นเพื่อแยกชิ้นส่วนออกจากกัน และป้องกันการเสียดสีหรือชนกัน
ยึดตรึงชิ้นส่วน: สำหรับชิ้นส่วนที่มีขนาดใหญ่หรือมีน้ำหนักมาก ควรใช้สายรัด (straps) หรือตะปู/สกรูยึดชิ้นส่วนกับลังไม้ เพื่อป้องกันการเคลื่อนที่ระหว่างการขนส่ง
การใช้ลังไม้ซ้อนกัน: หากจำเป็นต้องซ้อนลังไม้ ควรออกแบบลังให้มีโครงสร้างที่แข็งแรงพอที่จะรับน้ำหนักจากการซ้อนกันได้ และระบุ "ห้ามวางซ้อน" (Do not stack) หรือ "วางซ้อนได้ไม่เกิน X ชั้น" (Stack limit X)

4. การปิดลังไม้และติดฉลาก
ปิดลังให้แน่นหนา: ใช้ตะปู สกรู หรือสายรัดเหล็ก (steel straps) ในการปิดลังไม้ให้แน่นหนา ป้องกันการเปิดออกโดยไม่ตั้งใจ
ติดฉลากที่ชัดเจน:
ข้อมูลผู้ส่งและผู้รับ: ชื่อ ที่อยู่ และข้อมูลการติดต่อ
น้ำหนัก: ระบุGross Weight และ Net Weight ของลัง
สัญลักษณ์การขนส่ง: เช่น "ระวังแตก" (Fragile), "ด้านนี้ขึ้น" (This Way Up), "ห้ามซ้อนทับ" (Do Not Stack), "กันความชื้น" (Keep Dry)
รหัสสินค้า/รหัสอ้างอิง: เพื่อให้ง่ายต่อการติดตามและตรวจสอบ
เอกสารการจัดส่ง: แนบเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น ใบกำกับสินค้า, ใบส่งของ, หรือเอกสารศุลกากร ไว้ในซองกันน้ำและติดไว้ที่ด้านนอกของลัง

Bomag Team